การฝึกจิตใจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในการทำธุรกิจก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้การบริหารหรือวางแผนงานง่ายขึ้น เพราะการทำธุรกิจทุกครั้งจะต้องเจอกับอุปสรรค เจอความยากลำบากกันอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีจิตใจที่เข้มแข็งและแนวคิดที่ดีก็จะยอมแพ้กันไปง่าย ๆ หรือแม้จะแค่ย่อท้อแล้วไม่หาทางแก้ไขความคิดนั้นความสำเร็จก็จะไม่เกิดแน่นอน เทคนิคการฝึกจิตใจมีประโยชน์อย่างไรสำหรับเจ้าของธุรกิจ แม้เทคนิคการฝึกจิตใจจะดูเหมือนไม่ได้มีอะไรสำคัญเท่าทักษะอื่น ๆ ที่เจ้าของธุรกิจควรมี แต่ความจริงแล้วสภาพจิตใจเป็นเหมือนพื้นฐานที่จะทำให้เกิดทักษะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่สำคัญขึ้นมาได้ ประโยชน์ที่ชัดเจนของการฝึกจิตใจให้พร้อมจะมีอยู่ 3 ข้อใหญ่ ๆ ได้แก่ ประโยชน์ของการฝึกจิตใจก็คือการช่วยให้เกิดความสุขในการทำงานขึ้นมาได้ การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น และยังช่วยให้ความเครียดลดลงได้อีกด้วย 1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อจิตใจพร้อม การทำงานก็จะเป็นระบบมากขึ้น ผู้ประกอบการทุกคนจะพยายามหาหนทางทุกอย่างเพื่อทำให้ธุรกิจของตัวเองดำเนินต่อไปได้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ 2. ริเริ่มความคิดสร้างสรรค์ หลังจากที่ได้ปรับพื้นฐานจิตใจกับแนวคิดมาแล้วผู้ประกอบการจะเริ่มมีสมาธิกับธุรกิจของตัวเอง เกิดเป็นความคิดใหม่ ๆ หรือหาแนวทางแบบใหม่ ๆ มาใช้ได้ง่ายขึ้น 3. ลดความเครียด เมื่อฝึกจิตใจให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในการทำธุรกิจมาแล้ว ผู้ประกอบการจะเข้าใจถึงกลไกต่าง ๆ ในการทำธุรกิจ ทำให้เครียดน้อยลง และหาวิธีรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น เทคนิคการฝึกจิตใจให้พร้อมสำหรับการทำธุรกิจ เทคนิคการฝึกจิตใจให้พร้อมสำหรับการทำธุรกิจสามารถทำได้ด้วยตัวเองแต่จะต้องหมั่นฝึกฝนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ความคิดเหล่านั้นคงที่ เมื่อมีปัญหาต่าง ๆ ต้องมีสติและใช้ความคิดที่ฝึกมาเพื่อให้ปัญหาลุล่วงผ่านไปได้ โดยจะมีเทคนิคที่ควรทำทั้งหมดดังนี้ ฝึกสมาธิ ก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนอะไรคุณจะต้องมีสมาธิก่อน […]
Category Archives: การพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ
ความสำคัญในการมองภาพรวมให้ออก และคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ การมองภาพรวมให้ออกถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจหรือวางกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ เมื่อมีการจดจ่อกับอะไรบางเรื่องมากเกินไปจะทำให้โฟกัสการมองเห็นแคบลง ผู้ประกอบการมือใหม่ทั้งหลายที่กำลังพยายามมองหาช่องทางทำธุรกิจก็มักจะมองอะไรแคบกว่าที่ควรจะเป็นเสมอเช่นกัน คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่จึงเป็นการหัดให้มองภาพแบบกว้าง ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ที่ตกหล่นไป ต้องทำอะไรอย่างรอบคอบ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน มีการบริหารจัดการที่ดี มีความมุ่งมั่นและสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ การมองภาพรวมสำคัญต่อธุรกิจของคุณอย่างไร การมองภาพรวมหรือภาพใหญ่ (Big Picture Thinking) นั้นเป็นหนึ่งในทักษะที่ผู้ประกอบการทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การมองภาพรวมให้เป็นก็จะช่วยให้คุณโฟกัสเรื่องที่ควรทำได้อย่างถูกจุด การมองเห็นภาพรวมแบบกว้าง ๆ จะช่วยให้คุณมองเห็นเป้าหมายของธุรกิจชัดขึ้น ทำงานได้ง่ายขึ้น และยังมองเห็นโอกาสต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาได้ดีขึ้น จากนั้นก็ค่อย ๆ โฟกัสรายละเอียดปลีกย่อยอีกครั้ง – การมองภาพรวมจะช่วยให้เป้าหมายของธุรกิจชัดขึ้น ในการเริ่มธุรกิจใหม่ก็จะต้องมองภาพกว้าง ๆ ว่ามีรายละเอียดอย่างไร แล้วค่อย ๆ เขียนแผนธุรกิจขึ้นมาเพื่อกำหนดทิศทางของบริษัทว่าควรต้องเดินไปทางไหน ถ้าไม่มองภาพกว้างก่อนก็จะทำให้เดินผิดทิศได้ง่ายเพราะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทิศทางของตลาดมาก่อนเลย – การมองภาพรวมจะช่วยให้ทำงานได้ง่าย เพราะคุณจะมองออกว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เอื้อต่อการก้างหน้าของธุรกิจและปรับปรุงแผนการทำงานให้เป็นไปตามความเหมาะสม แบ่งงานหรือกำหนดหน้าที่ของพนักงานได้อย่างรอบคอบ การทำงานของทั้งบริษัทเลยง่ายขึ้นตามไปด้วย – การมองภาพรวมจะช่วยให้มองเห็นโอกาส เพราะการมองภาพรวมจะได้เห็นทั้งตลาดและปัจจัยต่าง ๆ ในมุมกว้าง เมื่อมีโอกาสอะไรเข้ามาก็จะมองเห็นแล้วคว้าเอาไว้ได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็ช่วยได้ ในการทำงานทั่วไปของผู้ประกอบการ […]
การวิเคราะห์ตนเองเพื่อนำไปพัฒนาถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแนวทางธุรกิจต่าง ๆ เพราะการรู้ข้อดีและข้อเสียของตัวเองก็จะช่วยให้วางกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างรัดกุม ขั้นตอนหรือวิธีในการวิเคราะห์ตนเองก็มีอยู่หลายอย่าง มีหลายเทคนิคที่น่าสนใจ ถ้าสามารถวิเคราะห์แนวทางที่เหมาะสมแล้วพัฒนาตนเองขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพได้แล้วก็จะพาธุรกิจหรือหน้าที่การงานของคุณก้าวหน้าไปด้วยอย่างแน่นอน การวิเคราะห์ตนเองคืออะไร ทำไมต้องวิเคราะห์ตนเอง การวิเคราะห์ตนเองคือแนวทางที่ใช้ในการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตนทั้งในด้านการทำงาน สติปัญญา และอารมณ์ ซึ่งจะต้องใช้ปัจจัยและเทคนิคหลายอย่างเพื่อการเข้าใจความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง ถ้ายังวิเคราะห์ตนเองออกมาไม่ได้ การพัฒนาก็จะทำไม่ได้ หรือถ้าดันทุรังทำไปก็จะพัฒนาออกมาไม่ถูกทาง “การพัฒนาตนเองมีประโยชน์ในการทำงานอย่างไร?” ดังนั้นการวิเคราะห์ตนเองจึงมีประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพต่าง ๆ อุดช่องโหว่ ลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น และยังช่วยปรับอารมณ์ ปรับแนวคิดให้เหมาะสำหรับการทำธุรกิจหรือประกอบหน้าที่การงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้และเข้าใจตัวเองเพื่อต่อยอดไปถึงอนาคตในแบบที่ต้องการ ขั้นตอนการวิเคราะห์ตนเองเพื่อการพัฒนาอย่างถูกทาง แม้การวิเคราะห์ตนเองเพื่อการพัฒนาจะไม่ได้มีกฎตายตัวว่าต้องทำอย่างไร แต่ก็จะต้องตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างขึ้นมาก่อนเพื่อให้มีแนวทางว่าจะพัฒนาตัวเองไปในด้านไหน หรือต้องการเพิ่มทักษะอะไรในชีวิต สำหรับการวิเคราะห์อย่างถูกต้องก็จะมีขั้นตอนสำคัญที่ควรทำตามดังนี้ หาทางเข้าใจพฤติกรรม ขั้นตอนแรกในการวิเคราะห์ตนเองจะต้องพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรมของตนเองเพื่อค้นหาบุคลิกภาพ ค้นหาทัศนคติ อารมณ์ด้านบวกและด้านลบ ถนัดทำงานคนเดียวหรือเป็นทีม เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ได้มากแค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่อาจจะส่งผลในการทำงาน หรืออาจจะคัดเฉพาะพฤติกรรมที่มีผลต่อทักษะด้านที่ต้องการพัฒนาก็ได้ ค้นหากระบวนการคิด เมื่อเข้าใจพฤติกรรมเบื้องต้นของตนเองแล้ว จากนั้นก็ต้องมองย้อนกลับไปว่าพฤติกรรมเหล่านั้นมาจากไหนเพื่อค้นหากระบวนการคิดของตัวเองว่าตอบสนองอย่างไรต่อเหตุการณ์แบบไหนบ้าง เพราะการกระทำทุกอย่างส่งผลมาจากกระบวนการคิด เมื่อค้นหากระบวนการคิดได้แล้วก็จะช่วยให้พัฒนาได้อย่างถูกทางว่าควรปรับปรุงหรือเสริมตรงไหนให้มีศักยภาพขึ้นได้บ้าง รู้ทันอารมณ์ของตัวเอง อารมณ์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการคิดและพฤติกรรม ดังนั้นคุณจะต้องรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองอยู่เสมอ ต้องคอยตรวจสอบว่าเวลาทำอะไรบ้างแล้วจะรู้สึกดี รู้สึกแย่ […]